fbpx

“เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล” ถุงพลาสติกคิดครบจบเพื่อลูกค้า  SME D Bank หนุนขยายกิจการขับเคลื่อนเติบโตยั่งยืน 

 

จากเป้าหมายวางไว้ คือ ความยั่งยืน จึงยึดหลัก คุณภาพ ซื่อสัตย์ต่อคู่ค้าและลูกค้า ในขณะเดียวกัน ปรับตัวเสมอ ดำเนินธุรกิจอย่างยืดหยุ่นเหมาะสมกับสถานการณ์ ส่งผลให้วันนี้  บริษัท เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงพลาสติกสำหรับใส่อาหารและวัตถุดิบอาหารครบวงจร  ขึ้นแท่น Top3 ในวงการ มียอดผลิตมูลค่าปีละกว่า 500 ล้านบาท  และตลอดเส้นทางธุรกิจที่ผ่านมา เมื่อต้องการแหล่งทุน เพื่อขยายกิจการ  สถาบันการเงินแห่งแรกที่นึกถึงและมอบโอกาสให้เสมอ คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank

          

คุณองอาจ งามดำรงค์ เจ้าของ บริษัท เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล จำกัด  เล่าย้อนไปในราวปี 2546 ได้ถูกชักชวนให้เข้าไปทำงานอยู่ในโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลาสติกแห่งหนึ่ง ประสบการณ์ 3 ปีทำให้ได้เรียนรู้งานหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะดูแลบริหารจัดการคลังสินค้า ระบบบัญชี ฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งนอกจากต้องสร้างความสัมพันธ์กับคนในองค์กรแล้ว ยังสัมผัสเข้าใจในความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าด้วย 

           

ระยะ 3 ปี ในบทบาทพนักงานประจำ บ่มให้มีความพร้อมที่จะลุกมาเป็นเจ้าของกิจการ  ประกอบกับครอบครัวพร้อมสนับสนุนด้านเงินทุน จึงคิดเข้าสู่เส้นทางสายของการเป็นผู้ประกอบการ 

 

เมื่อได้พูดคุยกับทางบ้าน เขาก็ถามผมว่า ที่ผ่านมาได้อะไรจากการทำงานบ้าง แล้วก็ตบท้ายให้ว่า ทำไมไม่ลองทำเอง ครอบครัวพร้อมสนับสนุนเงินทุน ตอนนั้นผมก็เริ่มวางโมเดลธุรกิจ ให้ครอบครัวเห็นภาพ กระทั่งมาสู่กระบวนการลงมือปฏิบัติ” องอาจ ระบุ

 

เขาใช้พื้นฐานและความเข้าใจในธุรกิจผลิตถุงพลาสติก มาสร้างธุรกิจของตัวเอง ในชื่อ บริษัท เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล จำกัด เมื่อปี 2549 ห้องเช่าขนาด 80 ตารางวา ย่านพระราม 2 คือสถานที่ตั้งโรงงานผลิต พร้อมสั่งซื้อเครื่องจักร และจากที่คาดการณ์งบประมาณไว้ 5 ล้าน แต่ด้วยกำลังผลิตเพิ่มขึ้น จึงค่อยๆ ขยับสู่ตัวเลขลงทุน 20 ล้านบาท โดยมีพนักงานเริ่มต้น 10 คน 

           

ธุรกิจขนาดเล็กแต่เน้นทำงานคุณภาพ บวกความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา ทำให้บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ ให้ความสนใจป้อนงานผลิตให้ เริ่มจากปริมาณไม่มาก แต่ด้วยคุณภาพที่ลูกค้ายอมรับและเชื่อถือ ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง   การขยับขยายโรงงานผลิตจึงเริ่มตามมา โดยในปี 2553 ก่อตั้งโรงงานบนพื้นที่ 11 ไร่ รองรับยอดขายที่ขยับแตะตัวเลข 500 ล้านบาท 

          

ผมเริ่มต้นจากบริษัทเล็กๆ ติดต่อลูกค้าด้วยตัวเอง โดยลูกค้ารายแรกที่ให้โอกาส คือ ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ เพราะเขามองเราเป็นเอสเอ็มอี มีข้อดีคือคล่องตัว การทำงานจะไม่ผ่านขั้นตอนมากเหมือนบริษัทใหญ่ งานเร่ง งานด่วน พร้อมตลอด การส่งมอบสินค้าทำได้เร็ว และข้อดีของธุรกิจขนาดเล็กคือมีความยืดหยุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณภาพสำคัญมาก อันนี้ต้องเน้นไว้เลย ยิ่งทำงานให้บริษัทใหญ่ ยิ่งต้องให้สำคัญมากๆ”  เขาระบุปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ

            

การทำธุรกิจที่ชัดเจนกับเป้าหมาย ส่งให้ทิศทางก้าวง่ายขึ้น โดยกำหนดจุดยืนของตัวเองให้เป็นผู้ผลิตถุงสำหรับใส่อาหาร และวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหาร พัฒนาศึกษาและสร้างนวัตกรรม กระทั่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ถุงใส่อาหารหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุม  

          

อาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่เรียกได้ว่าสำคัญมาเป็นอันดับต้นๆ ฉะนั้นแม้ในวันที่เกิดภาวะวิกฤต ยกตัวอย่าง สถานการณ์โควิด-19 หลายต่อหลายกิจการต่างปิดตัวลง แต่ บจก. เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล ยังคงเดินหน้าผลิตเต็มกำลัง

          

โชคดีที่จับถูกทางมาอยู่ในเส้นทางอาหาร ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตลอด ก็คิดว่า บจก. เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล น่าจะอยู่ในกลุ่ม Top 3 ของผู้ผลิตถุงสำหรับใส่อาหาร และด้วยทำงานให้กับบริษัทใหญ่หลายแห่ง ซึ่งเขาก็มีแผนเติบโตขึ้นทุกปี ฉะนั้นเมื่อเขาเติบโตก็เท่ากับเราเติบโตไปด้วย

 

คุณองอาจ ยังกล่าวเพิ่มเติม แม้ในวันนี้ธุรกิจรุดหน้าไปมาก แต่กระบวนการทำ ยังยึดสไตล์บริหารแบบคนตัวเล็ก นั่นคือ มีความคล่องแคล่วว่องไว ใส่ความยืดหยุ่นเพื่อให้ลูกค้าประสานงานได้ง่าย  นี่จึงเป็นเสน่ห์ของการทำธุรกิจที่กุมหัวใจลูกค้า กระทั่งส่งมอบความไว้วางใจ กับยอดสั่งผลิตขยายอย่างต่อเนื่อง 

เส้นทางธุรกิจที่เติบโตเรื่อยมา คุณองอาจ ระบุว่า จะไม่สามารถเดินมาถึงวันนี้ได้ หากขาดปัจจัย เงินทุน” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อใดที่ธุรกิจต้องการขยายกิจการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้ามายืนเคียงข้างทุกครั้ง ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อโครงการต่างๆ   ซึ่งมีข้อดี เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตรงความต้องการ และเงื่อนไขเหมาะสม 

 

เคยคิดแค่ว่าเป็นเอสเอ็มอีตัวเล็กๆ มีแรงงานผลิต 40-50 คนก็มากพอแล้ว มีความสุขแล้ว แต่ด้วยกำลังความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้นๆ จำต้องขยายกำลังผลิตตามมา จากพนักงาน 10 คน กลายเป็น 300 คน  ซึ่งการมีพนักงานมาก ในมุมหนึ่ง เป็นความภูมิใจของผมที่มีส่วนช่วยให้เกิดการจ้างงาน แต่ละชีวิตที่เข้ามาทำงานกับเรา เขายังมีอีกหลายชีวิตอยู่เบื้องหลัง รายได้ของเขาคือปากท้องของอีกหลายๆ คน ฉะนั้นการทำตรงนี้จึงไม่ใช่แค่เราแล้ว แต่พนักงานต้องสุขไปด้วย” คุณองอาจ ทิ้งท้าย

 

***ติดต่อ บริษัท เอ็นจีเอ็ม อินดัสเตรียล จำกัด 

65/22-3 หมู่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 

โทรศัพท์:034-867-348 

Skip to content